นายก ร.ร.เอกชนหนุน ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ขอสุภาพ-ไม่รุงรัง ให้เด็กเรียนสนุก-มีความสุข

นายก ร.ร.เอกชนหนุน ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ขอสุภาพ-ไม่รุงรัง ให้เด็กเรียนสนุก-มีความสุข

นายก ร.ร.เอกชนหนุน ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ขอสุภาพ-ไม่รุงรัง ให้เด็กเรียนอย่างสนุก มีความสุขกับการเรียน อดีตประธาน กพฐ.ชี้ฝึกความรับผิดชอบของนักเรียน

การศึกษา จากกรณีที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามประกาศยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาไว้ เพื่อให้สถานศึกษากำหนดลักษณะทรงผม ความสั้น ยาว การดัด ย้อม ไว้หนวด ไว้เครา ได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องให้แก้ไขปรับปรุงระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป จึงไม่อยากใช้เป็นกรอบพัฒนาเยาวชน และจำกัดความสุขของเด็ก แต่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องหารือคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อกำหนดเกณฑ์ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ได้ และเพื่อให้นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุข แม้จะมีนักวิชาการเห็นด้วย แต่ยังกังวลว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ยังยึดติดอำนาจนิยม และเข้าใจสิทธิเด็กค่อนข้างต่ำ ขณะที่นักเรียนบางกลุ่มก็เกรงว่า โรงเรียนจะยิ่งเข้มงวดเรื่องทรงผมมากขึ้นนั้น เมื่อวันที่ 26 มกราคม ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี เห็นด้วยกับการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และกระจายอำนาจให้โรงเรียนไปกำหนดระเบียบทรงผมของตนเอง เพราะทรงผมของนักเรียน ควรให้โรงเรียนไปจัดการให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนดีกว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชน 90% เปิดกว้างเรื่องทรงผมนักเรียนอยู่แล้ว เพื่อให้เด็กได้เข้ามาเรียนอย่างสนุก มีความสุขในการเข้ามาเรียนในโรงเรียน เพียงแต่ขอให้นักเรียนไว้ทรงผมสุภาพ เรียบร้อย อย่ายาวรุงรัง และปิดหน้าปิดตา “ที่หลายคนมองว่าทรงผม อาจเป็นแรงจูงใจให้เด็กไปอยู่ในโรงเรียนที่เปิดกว้างมากกว่าที่จะไปอยู่ในโรงเรียนที่เข้มงวด มองว่าเรื่องนี้อาจมีผลกระทบบ้าง ที่ผ่านมาโรงเรียนใดที่มีระเบียบให้นักเรียนตัดผมสั้น

นายก ร.ร.เอกชนหนุน ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ขอสุภาพ-ไม่รุงรัง ให้เด็กเรียนสนุก-มีความสุข

นักเรียนหญิงจะไม่ค่อยอยากเข้าโรงเรียนนั้น อยากไปอยู่โรงเรียนที่ให้ไว้ผมยาวได้ เป็นต้น

” ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว ด้าน รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข่าวการศึกษา (กพฐ.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับการยกเลิกระเบียบทรงผมของนักเรียน เพราะส่วนกลางไม่ควรกำหนดระเบียบวินัยของนักเรียน แต่ควรให้โรงเรียนมีอิสระในการกำหนดระเบียบของตนมากกว่า หากโรงเรียนเปิดกว้างเรื่องทรงผม จะเป็นการฝึกความรับผิดชอบของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ว่าถ้าไว้ทรงผมตามที่ต้องการแล้ว มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และเป็นการฝึกความรับผิดชอบของนักเรียนไปในตัวด้วย “ผมคิดว่าเรื่องนี้ควรทำมานานแล้ว เพราะทรงผมไม่ได้เกี่ยวกับสติปัญญาการเรียนของนักเรียน ส่วนที่หลายคนมองว่าทรงผม อาจจะเป็นแรงจูงใจให้เด็กไปอยู่ในโรงเรียนที่เปิดกว้างมากกว่าที่จะไปอยู่ในโรงเรียนที่เข้มงวดนั้น ผมคิดว่าการศึกษาในปัจจุบัน เราไม่ควรไปคิดแทนเด็ก ให้เด็กได้เรียนรู้เองว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ทั้งนี้ ครูจะต้องเปลี่ยนความคิดของตนด้วย โดยครูไม่ควรไปประชดประชันเด็กว่าสะใจแล้วสิ มีอิสระแล้วสิ ไว้ทรงผมอะไรก็ได้ แต่ควรดูแลเด็ก ให้คำแนะนำเด็กว่าควรไว้ผมยาวแบบไหน และส่งเสริมให้เด็กคิดว่าอะไรเหมาะ และอะไรควรมากกว่า” รศ.ดร.เอกชัย กล่าว

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : บิ๊กตู่ เปิดประชุมวิชาการเอเปค ชี้เป็นโอกาสดีที่ นักวิจัย-นักวิทย์-ผู้นำธุรกิจ