‘อาจารย์กรมการศึกษานอกโรงเรียน’ รับพบสั่งจริง ลงชุมชนทำโพลลับ อึดอัดหวั่นหวาดผลสรุป ทำประชาชนถูกขู่เข็ญ
ข่าว นางสาวนี (นามปากกา) คุณครู กรมการศึกษานอกโรงเรียนรายหนึ่งใน จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่รัฐร้องพรรคก้าวหน้า (กรัมกรัม) ว่าถูกฝ่ายบริหาร กรมการศึกษานอกโรงเรียนระดับที่ค่อนข้างสูงสั่งให้ทำโพลลงคะแนน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ส่วนตัวรู้สึกอึดอัด คับแค้นใจกับแนวทางดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เนื่องจากว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจำต้องวางตัวเป็นกลางด้านการเมือง ที่สำคัญไม่กลายเป็นวัสดุฝ้ายข้างใดข้างหนึ่ง แม้กระนั้นในฐานะคุณครู แล้วก็คณะกรรมการการเล่าเรียนระดับตำบล จำต้องสนองนโยบายดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักศึกษาเล่าเรียน กรมการศึกษานอกโรงเรียนจำนวนมากเป็นพลเมืองทั่วๆไป ตามหลักสูตรผลักดันการปกครองในระบบประชาธิปไตย พร้อมให้คำปรึกษาประชากร หรือผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ในฐานะวิทยากรที่เคยได้รับการฝึกอบรมการเลือกตั้งของ กกต. เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจลงคะแนนดังกล่าวข้างต้นไปสู่หมู่ชนด้วย “ในฐานะผู้ปฏิบัติ จำเป็นต้องวางตัวเป็นกลางไม่สามารถที่จะเสนอแนะคนไหนได้ เพราะว่าแต่ละพื้นที่แตกต่าง บางพื้นที่สามัคคี ประนีประนอม บางพื้นที่ไม่ตรงกัน บางทีอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความร้ายแรงได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ไม่อาจจะเข้าข้างผู้ใดกันได้ ด้วยเหตุว่าอาจารย์ กรมการศึกษานอกโรงเรียนไม่ต้องการที่จะอยากสร้างปรปักษ์กับผู้ใดกันหรือพรรคไหน มีบทบาทรวมทั้งภารกิจเกื้อหนุนแล้วก็วิวัฒนาการเล่าเรียนเพียงแค่นั้น” นางสาวนีกล่าว นางสาวนีกล่าวอีกว่า ไม่ว่าแนวทางการทำโพล หรือกิจกรรมอื่นใดที่อยู่นอกจากภารกิจหน้าที่ อาจารย์ กรมการศึกษานอกโรงเรียนจำต้องไม่เอาตัวไปเสี่ยง แล้วก็ปฏิบัติหมิ่นข้อบังคับ บางทีอาจถูกตั้งคณะกรรมการไต่สวนทางระเบียบ แล้วก็ถูกฟ้องร้องคดีได้ ด้วยเหตุดังกล่าว จำเป็นที่จะต้องไม่เป็นอันตรายไว้ก่อน ถ้าทำไม่ถูกอาจมีผลข้างเคียงตามมาวันหลังได้ ในขณะที่ นางขนิษฐี (ขอรักษาสกุล) อดีตกาล ผู้อำนวยการกรมการศึกษานอกโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยถึงในกรณีที่คุณครู กรมการศึกษานอกโรงเรียนทำหนังสือร้องทุกข์ถึงพรรคก้าวหน้าว่า ประเด็นการทำโพลมีบ่อยครั้ง เพราะเหตุว่า กรมการศึกษานอกโรงเรียนเป็นหน่วยงานที่สนิทสนมพลเมืองเยอะที่สุด และก็ผู้ที่จ้างทำโพลก็มีอีกทั้งหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งเอกชน
ตรวจสอบราษฎรในแต่ละประเด็นนั้นๆรวมทั้งเมื่อทำโพลเสร็จก็เป็นผลงานตรวจของหน่วยงานนั้นๆก็เลยไม่แปลกที่นายจ้างจะเป็นของพรรคการเมืองใดก็ได้
เมื่อตรวจสอบแล้วพรรคนั้นก็เป็นเจ้าของโพลแต่ละโพล มันอยู่ที่ว่าพรรคการเมืองอยากหัวคะแนนเป็น คน กรมการศึกษานอกโรงเรียนด้วยไหม “ถ้าหากเป็นตอนๆการเลือกตั้ง ทุกพรรคก็จะมุ่งหน้ามาให้ กรมการศึกษานอกโรงเรียนทำโพล มีการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้คุณครู ให้ผู้เรียน ก็สิ้นสุดกันไป แล้วก็กระบวนการทำโพลจำเป็นต้องไม่มีการเลือกข้าง เลือกพรรค คนของพวกเรา พรรคของพวกเรา คนทำโพลจึงควรปฏิบัติหน้าที่เป็นคนเก็บข้อมูลรวมทั้งผลการสำรวจแค่นั้น มิได้เป็นคนชี้แนะ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเป็นแบบนั้น” นางขนิษฐีกล่าว นางขนิษฐีกล่าวอีกว่า ข่าวการศึกษา ตอนนี้มีจำนวนเงินเข้ามาเกี่ยวเนื่อง ได้มาก้อนใหญ่แม้กระนั้นไม่มีการจ่ายลงมายังข้างล่าง มันก็เลยกำเนิดปัญหา คนของพรรคนั้น คนของพรรคนี้ จะย้ายลูก ย้ายหลาน เลื่อนฐานะ ล้วนทรงอิทธิพลต่อกระบวนการทำโพลเกือบ 100% ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยขึ้นอยู่กับที่ด้านบนแค่นั้น ถ้าเกิดเปิดไฟเขียว ทุก กรมการศึกษานอกโรงเรียนที่ขึ้นอยู่กับเขต เขาก็จะทำงานทำโพลเองจนถึงสำเร็จขั้นตอน ส่วนค่าแรงงานแนวทางการทำโพลอยู่ที่การตกลงระหว่างนายจ้างกับผู้ที่ทำโพล ก่อนหน้านี้ก็เลยไม่กำเนิดปัญหา “คราวนี้การบ้านการเมืองค่อนข้างจะร้ายแรง และก็ต่างฉกชิงความเป็นต่อ ฉกชิงผลตอบแทน ก็เลยกำเนิดปัญหามีการฟ้องขึ้นมา ก็เลยขอเรียนให้รู้ว่า กรมการศึกษานอกโรงเรียนมิได้เป็นของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง กรมการศึกษานอกโรงเรียนเป็นสถานศึกษาที่เน้นให้เด็กได้ได้โอกาส ได้ทำความเข้าใจประสบการณ์ด้วยตัวเอง โพลก็เลยไม่ใช่ความเคลื่อนไหวอะไรบ้างที่อยู่ใน กรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่ว่าอย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวโยงกับ กรมการศึกษานอกโรงเรียน คน กรมการศึกษานอกโรงเรียนมาเป็นฐานเสียงของนักการเมือง อย่าถึงจำเป็นต้องด่าทอลูกน้องทางไลน์กรุ๊ป หรือไลน์ส่วนตัว อย่าบังคับลูกน้องจำต้องเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ รวมทั้งคุณครูอย่าสั่งการกับเด็กจะต้องเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ ให้เป็นหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงาน กรมการศึกษานอกโรงเรียน” นางขนิษฐีกล่าว
แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : โซเชียลปูดประเด็นใหม่ ‘ภาษาพาที’ น้ำจิ้มข้าวมันไก่เผ็ด ใช้น้ำปลาแก้อีกแล้ว